![]() |
ภาพที่ 1.2 การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขาย |
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบ
คลุมถึงการซื้อขายสินค้า บริการการชำระเงิน การโฆษณา โดยผ่านสื่อ
อิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออกกระทรวงพาณิชย์
ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการ
ผ่านและระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลกให้คำจำกัดความไว้ว่า
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง
การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย
หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการ
โดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
E-Commerce คืออะไร
Electronic Commerce หรือ E-Commerce คือ การซื้อขายสินค้าหรือ
Electronic Commerce หรือ E-Commerce คือ การซื้อขายสินค้าหรือ
บริการโดยส่งข้อมูลด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเครือข่าย เช่น Internet ถ้า
ผู้ใช้มีเครื่องคอมพิวเตอร์ คู่สายโทรศัพท์ โมเด็ม และเป็นสมาชิกของบริการ
Internet ก็สามารถทำการค้าผ่านระบบเครือข่ายได้
ผู้ใช้มีเครื่องคอมพิวเตอร์ คู่สายโทรศัพท์ โมเด็ม และเป็นสมาชิกของบริการ
Internet ก็สามารถทำการค้าผ่านระบบเครือข่ายได้
E-Commerce เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี Internet กับการ
จำหน่ายสินค้าและบริการโดยสามารถนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวสินค้า
หรือบริการผ่านทาง Internet สู่คนทั่วโลกภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้
การดำเนินการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดรายได้ในระยะเวลา
อันสั้น
หรือบริการผ่านทาง Internet สู่คนทั่วโลกภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้
การดำเนินการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดรายได้ในระยะเวลา
อันสั้น
E-Commerce ใช้ติดต่อกับลูกค้าได้หลายระดับ
ธุรกิจกับลูกค้า
ธุรกิจกับธุรกิจ
ธุรกิจกับภาครัฐฯ สาระของการติดต่อจะมี 4 ประการ คือ
1.การขาย รวมการโฆษณา แสดงสินค้า เสนอราคา สั่งซื้อ
คำนวณ
ราคา 2.การชำระเงิน การตกลงวิธีชำระเงิน สั่งโอนเงิน ให้ข้อมูลบัญชี ธนาคารที่ใช้ตัดบัญชี ตลอดจนเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆ
3.การขนส่ง แจ้งวิธีการส่งมอบของ ค่าขนส่ง
และสถานที่ติดต่อ
และระบบติดตามสินค้าที่ส่ง
4.บริการหลังการขาย
การติดต่อภายในบริษัท เช่นระบบบัญชี คลัง
สินค้าระบบสั่งซื้อสินค้าและวัตถุดิบสั่งผลิต ตลอดจนบริการลูกค้าหลังการ
บทบาทภาครัฐกับ E-Commerce
เนื่องจากการทำธุรกิจดังกล่าวมีการแข่งขันกันร้อนแรง ส่วนใหญ่
อยู่ในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยเป็นไปได้ที่คู่ค้าอาจไม่เคยรู้จักติดต่อกัน มาก่อน ปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากภาครัฐได้แก่ แผนกลยุทธ์การค้าอิเล็กทรอนิกส์ ของประเทศ เพื่อมิให้เสียเปรียบเชิงการค้าในระดับโลก โครงสร้างการสื่อสารที่ดี และเพียงพอ กฎหมายรองรับข้อมูลและหลักฐานการค้าที่ไม่อยู่ในรูปเอกสาร ระบบความปลอดภัยข้อมูลบนเครือข่ายและระบบการชำระเงิน
E-Government เป็นอีกมิติหนึ่งของการให้บริการภาครัฐออนไลน์
ที่จะเอื้อให้ธุรกิจ ประชาชน ติดต่อใช้บริการในกรอบบริการงานแต่ละด้านของ ส่วนราชการต่างๆ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทยให้บริการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ แก่สถาบันการเงิน กรมทะเบียนการค้าให้บริการจดทะเบียนการค้า เป็นต้น นอกจากนี้ การทำ E-Procurement เพื่อการจัดซื้อจัดหาภาครัฐก็เป็นบริการที่ ควรดำเนินการ เพราะจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส ละเป็นไปตามกรอบนโยบาย ของที่ประชุมเอเปกด้วย
ความปลอดภัยกับ E-Commerce
ระบบความปลอดภัยนับเป็นเรื่องที่โดดเด่นที่สุด
และมีเทคโนโลยีความ
ปลอดภัยคือ Public Key ซึ่งมีองค์กรรับรองความถูกต้องเรียกว่า CA
(CertificationAuthority) ระบบนี้ใช้หลักคณิตศาสตร์คำนวณรหัสคุมข้อความ
จากผู้ส่งและผู้รับอย่างเฉพาะเจาะจงได้
จึงสามารถพิสูจน์ตัวตนของผู้รับผู้ส่ง
(Authentication) รักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Confidentiality) ความถูก
ต้องไม่คลาดเคลื่อนของข้อมูล
(Integrity) และผู้ส่งปฏิเสธความเป็นเจ้าของข้อ
มูลไม่ได้ (Non-repudiation)เรียกว่าลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic
Signature)
ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการมีกฎหมายรองรับการทำธุรกรรมบนเครือ
ข่ายประเทศในยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกกฎหมายรับรองการใช้
ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายรองรับการทำธุรกิจดังกล่าว สำหรับใน ประเทศไทยก็เร่งจัดการออกกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ 6 ฉบับ โดยกฎ หมาย 2 ฉบับแรกที่จะออกใช้ได้ก่อนคือ กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
การชำระเงินบน E-Commerce Commerce
จากผลการวิจัยพบว่า
วิธีการชำระเงินที่สำคัญสำหรับกรณีธุรกิจกับธุรกิจ
ร้อยละ 70 ใช้วิธีหักบัญชีธนาคาร ขณะที่ ธุรกิจกับผู้บริโภคร้อยละ 65 ชำระด้วย
บัตรเครดิต
สำหรับในประเทศไทย ผลการสำรวจพบว่าผู้สั่งสินค้าบนอินเทอร์เน็ต
ร้อยละ 40-60 ใช้บัตรเครดิต อีกร้อยละ 40 ใช้วิธีโอนเงินในบัญชี
ซึ่งหมายความ
รวมถึง Direct Debit,
Debit Card และ Fund Transfer เพื่อสร้างความเชื่อ
มั่นแก่ระบบการชำระเงินบนอินเทอร์เน็ต
มีแนวทางการพัฒนาเพื่อบริการชำระ
เงินดังนี้
1. บริการ internet banking และ/หรือธุรกิจประเภท Payment
Gateway จะเป็น hyperlink ระหว่าง website ของร้านค้ากับระบบของธนาคาร
และธนาคารสามารถดำเนินการตามข้อมูลที่ได้รับเพื่อตัดโอนเงินในบัญชีของ
ลูกค้าหรือส่งเป็นคำสั่งโอนเข้าระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารที่มีมาตรการ
รักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน
2. สำหรับการชำระเงินที่เป็น Micro
Payment การใช้เงินดิจิทัลซึ่ง
บันทึกบนบัตรสมาร์ตการ์ด
หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถสร้างเสริมระบบ
ความปลอดภัยให้มั่นใจได้เหนือกว่าระบบบัตรเดบิตและบัตรเครดิตทั่วไป จึง เป็นแนวโน้มเทคโนโลยีที่น่าสนใจและเหมาะสม |